โทนเนอร์ เคล็ดลับผิวสวยที่ถูกมองข้าม
บ่อยครั้งที่แนะนำให้ลูกค้าใช้ “โทนเนอร์” แล้วจะได้รับคำตอบว่า “ไม่ใช้ได้ไหม?” ไม่เคยใช้เลย” “จำเป็นด้วยเหรอ?” ก็ไม่เคยละเลยที่จะอธิบายให้หลายๆ คนได้เข้าใจถึงประโยชน์ของโทนเนอร์
ไม่แปลกใจที่การดูแลผิวของหลายๆคน อาจจะข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะรู้สึกว่ายุ่งยาก หลายขั้นตอน จึงอยากเรามาทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของ “โทนเนอร์” ว่าเพราะอะไร จึงเป็น “เคล็ดลับสำหรับผิวสวย”
รู้จักกับโทนเนอร์
โทนเนอร์ แปลว่าปรับสภาพผิว ไม่ใช่การบำรุงให้ใบหน้าชุ่มชื่น หรือได้ผลเทียบเคียงครีมบำรุง แต่เป็นการเตรียมผิวก่อนทาครีม ซึ่งผลที่ได้แน่นอน คือ ความสะอาดที่มั่นใจได้มากขึ้น และทำให้ผิวรู้สึกสบาย โทนเนอร์ช่วยให้ครีมบำรุงทำงานดีขึ้น เมื่อใช้หลังล้างหน้าในการปรับให้ผิวรักษาความสมดุล ชุ่มชื่น จากนั้นเมื่อทาครีมบำรุง ครีมจึงซึมซาบลงสู่ผิวง่ายขึ้น และลึกมากขึ้น หากใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ภายใน 1-2 นาที
สมัยก่อนโทนเนอร์มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงมาก เป็นสาเหตุให้ผิวแห้งตึง ผู้หญิงหลายคนจึงไม่ค่อยชอบโทนเนอร์ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาโทนเนอร์ที่มีประสิทธิภาพการบำรุงมากขึ้น ดังนั้นควรรู้จักเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว
โทนเนอร์จะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดผิวหน้า โดยหน้าที่หลักของโทนเนอร์ คือชำระทำความสะอาดสิ่งสกปรกในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกตกค้างจริงๆ นอกจากนี้โทนเนอร์ ยังช่วยปรับสมดุลของผิว ช่วยลดความมัน และ กระชับรูขุมขน ในคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ในคนที่มีผิวแห้ง หลังการล้างหน้า
การเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
โดยทั่วไปโทนเนอร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โทนเนอร์ขจัดสิ่งสกปรก เช่น น้ำมันส่วนเกิน ฝุ่นละออง หรือเมคอัพตกค้างที่ คลีนเซอร์ล้างออกไม่หมด กับโทนเนอร์บำรุงผิว ซึ่งมีวิตามิน เกลือแร่ และสารบำรุงความชุ่มชื้นผิว
- ผิวธรรมดา - ผิวผสม – ผิวมัน: เลือกโทนเนอร์ที่ช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรก ต้นเหตุของสิว
- ผิวธรรมดา – ผิวแห้ง: เลือกโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติมอบความชุ่มชื้นปราศจากแอลกอฮอล์
- ผิวที่มีปัญหาริ้วรอย: เลือกโทนเนอร์ที่ทั้งปกป้อง มอบความชุ่มชื้น และผลัดเซลล์ผิวในขวดเดียวกัน
การใช้โทนเนอร์ให้ถูกวิธี
1. ควรเช็ดโทนเนอร์หลังล้างหน้าใหม่ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
2. เลือกใช้สำลีชนิดแผ่นแทนสำลีแบบก้อน เพราะสำลีแบบแผ่นสามารถเช็ดทำความสะอาดเข้าถึงทุกซอกทุกมุมของใบหน้าได้ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องเช็ดหลายๆ ครั้ง ในทางตรงข้ามสำลีแบบก้อนจะเช็ดได้ไม่ทั่วถึง ทำให้จำนวนครั้งที่ผิวหน้าจะถูกรบกวนมีมากขึ้น
3. เช็ดที่ละครึ่งหน้า เพื่อเป็นการเตือนความจำว่าคุณเช็ดโลชั่นได้อย่างทั่วถึงจริงๆ
4. วางแผ่นสำลีตรงนิ้วกลางและใช้นิ้วนางกับนิ้วชี้หนีบแผ่นสำลีไว้ไม่ให้หลุด จากนั้นชุบโลชั่นบนสำลีและลูบไล้จากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เมื่อเช็ดครึ่งหน้าฝั่งแรกเสร็จแล้ว ให้กลับแผ่นสำลีอีกด้านที่ยังไม่ได้ใช้และลูบไล้บนผิวหน้าด้วยวิธีเดียวกัน
3. เช็ดที่ละครึ่งหน้า เพื่อเป็นการเตือนความจำว่าคุณเช็ดโลชั่นได้อย่างทั่วถึงจริงๆ
4. วางแผ่นสำลีตรงนิ้วกลางและใช้นิ้วนางกับนิ้วชี้หนีบแผ่นสำลีไว้ไม่ให้หลุด จากนั้นชุบโลชั่นบนสำลีและลูบไล้จากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เมื่อเช็ดครึ่งหน้าฝั่งแรกเสร็จแล้ว ให้กลับแผ่นสำลีอีกด้านที่ยังไม่ได้ใช้และลูบไล้บนผิวหน้าด้วยวิธีเดียวกัน
ก่อนใช้โทนเนอร์
ควรทดลองตรงผิวหลังใบหู (ตรงจุดแต้มน้ำหอม) ถ้าแพ้ก็จะเห็นผลภายใน 30-60 นาทีหรือ ถ้ายังไม่มั่นใจ ก็ให้ทดลองเช็ดโทนเนอร์ก่อนนอนทิ้งไว้ เป็นระยะเวลา 1สัปดาห์ และ ลองสังเกตว่า ผิวบริเวณที่ทำการทดลองมีรอยผื่นแดงหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าสามารถใช้โทนเนอร์ชิ้นนั้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น