วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

คุณค่าของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

คุณค่าของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่



 สตอเบอร์รี่ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงและให้แคลอรี่ต่ำ มีวิตามินซีสูง ที่สำคัญคือผลสตรอเบอร์รี่มีสารแอนโธไซยานินเป็นแหล่งรวมของสารสีแดง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น เส้นใยอาหารของสตอเบอร์รี่ ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลและความเสี่ยงมะเร็งลำไส้แถมยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายให้ดีขึ้น

      บลูเบอร์รี่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามิน C และ วิตามิน E อยู่มากถ้าทานบลูเบอร์รี่ เป็นประจำจะช่วยบำรุงสายตาและบำรุงจอรับภาพ ผลไม้กลมๆ เล็กๆ สีน้ำม่วงเข้มอย่างเจ้าบลูเบอร์รี่นี้มีสาร anti-oxidant อยู่ในระดับสูงสาร anti-oxidant นั้น เป็นสารเคมีที่ต่อต้านการอักเสบและช่วยป้องกันการเสื่อมของร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระสู้ภาวะการแก่ตัวหรือชะลอความแก่ได้เป็นอย่างดี

      แครนเบอร์รี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลเล็กๆ สีแดงสด รสชาติหวานๆ อมเปรี้ยว เพาะปลูกในแถบประเทศอเมริกา และแคนาดา แครนเบอร์รี่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะใครที่ชอบอั้นปัสสาวะ จนเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วละก็ แครนเบอร์รี่ช่วยได้ เพราะในผลไม้ลูกเล็กๆ สีแดงๆ นี้มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย และมีสารแทนนิน ที่ช่วยหยุดการเกาะตัวของแบคทีเรียอี โคไล ที่บริเวณผนังทางเดินปัสสาวะได้ด้วย ใครที่กำลังเป็นโรคปัสสาวะอักเสบลองดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เข้มข้น ไม่มีน้ำตาลแก้วละ 250 มิลลิลิตรทุกวัน วันละ 3 แก้วจะช่วยบรรเทา และเป็นอีก 1 วิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคนี้ได้อีก

      ราสเบอร์รี่ เมื่อย้อนกลับไปในยุคกรีก และโรมัน ราสเบอร์รี่ถูกนำมาใช้เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค ราสเบอร์รี่มีธาตุ โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารสูง มีวิตามินเคหรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยในการแข็งตัวของเเลือด และยังมีแมงกานีส ที่ช่วยในการทำงานของปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย สารสีแดงในราสเบอร์รี่มีคุณสมบัติช่วยในการหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น มีผลต่อช่วยให้ ระบบการทำงานของประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      เชอร์รี่ ที่เราเห็นบ่อยบนยอดสุดของไอศกรีม รสชาติหวานหอมกรุบกรอบ เชอร์รีเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมในปริมาณสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสมดุลกับโวเดียมทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ ระบบไหลเวียนโลหิตดี นอกจากนี้ เชอร์รียังมีวิตามิน c ช่วยรักษาแผล ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดอีกด้วย เมื่อตัวเลขของอายุเริ่มมากขึ้นเราควรเลือกหาเชอร์รีมารับประทานกันบ่อยๆ เพราะจะช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือดป้องกันการเกิดโรคเกาต์ หรืออาการปวดตามข้อได้

      แบล๊กเบอร์รี่ หาดูได้ยากในบ้านเรา เป็นผลไม้เมืองหนาวที่มีประโยชน์มาก มีโฟลเลสสูง ช่วยเพิ่มและฟื้นฟูคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวหนังของเรา เต่งตึง และในแบล๊กเบอร์รี่ยังมีสารที่ชื่อซาลิไซเตสที่ช่วยป้องกันได้หลายโรค


      โกจิเบอร์รี่ 
   1. ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด (ปกติมี 20 ชนิด) แต่มีกรดอะมิโนครบทั้ง 9 ชนิด
   2. มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องกายในปริมาณน้อย รวม 21 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
   3. มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า (เป็นพืชที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสอง รองจาก คามู คามูเบอร์รี่)
   4. มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี
   5. มีสารโพลี่แซคคาไรด์ 4 ชนิด : LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4      - ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลดี      - ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ      - ช่วยให้น้ำตาลในเลือด และอินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล      - ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน      - ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้สู่ปกติได้เร็วขึ้น
   6. มีสารเจอร์มาเนี่ยม Germanium : Ge ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ (organic) ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง


     อะเซโลรา เชอร์รี่     เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสาระสำคัญตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่า อะเซโรลา เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า


        ในช่วงวัยของเราต้องการอาหารและผลไม้ที่มีประโยชน์เข้าไปช่วยเสริมสร้างให้ระบบภายในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยซ่อมแซมสิ่งที่สึกหล่อ ตระกูลผลไม้เบอร์รี่ ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกของผลไม้ดีมีประโยชน์ให้เราได้เลือกรับประทาน ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแยม น้ำสกัดเข้มข้น หรืออบแห้ง ว่าแล้วเย็นนี้ก็กลับไปซื้อ เบอร์รี่เก็บไว้ใส่ตู้เย็นทานกันดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น